วันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2553

ไข้หวัดใหญ่ 2009 h1n1

กระทรวงสาธารณสุข

คู่มือ การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009

สำหรับประชาชน


โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ติดต่อได้ โดยการไอหรือจามรดกันโดยตรง หรือการติดต่อผ่านทางมือที่สัมผัสของปนเปื้อน เสมหะ น้ำมูก น้ำลาย เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได โทรศัพท์ โต๊ะ เก้าอี้ แป้นคอมพิวเตอร์ ไมโครโฟน และเคาน์เตอร์ เป็นต้น แล้วใช้มือแคะจมูก ขยี้ตา ป้ายปาก โดยไม่ได้ล้างมือด้วยสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจลก่อน

อาการ

ไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก คัดจมูก อาจมีอาเจียน หรือท้องเสียร่วมด้วย ในรายที่มีอาการรุนแรง จะมีอาการหายใจลำบาก หอบเหนื่อย อาจเสียชีวิตได้

การป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009

1. ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจล เพื่อฆ่าเชื้อโรค

2. หลีกเลี่ยงการคลุกคลี ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไข้หวัด หรือในที่ชุมชนหนาแน่น หากจำเป็นให้สวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

3. ปิดปาก ปิดจมูก ด้วยกระดาษทิชชู เมื่อไอจาม และต้องล้างมือทุกครั้ง

4. หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อน ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น (กินร้อน-ช้อนกลาง-ล้างมือ)

5. ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และพักผ่อนให้เพียงพอ

6. ตดตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด

คำแนะนำ สำหรับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009

1. สวม หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น

2. หยุดงาน หยุดเรียน และพักผ่อนอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหาย ในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง เช่น ไข้ต่ำๆ ไม่เหนื่อย รับประทานอาหารได้ หากมีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูง อาเจียน ท้องเสีย ซึม หอบเหนื่อย หรือ รับประทานยาลดไข้แล้ว 48 ชั่วโมง ไข้ยังไม่ลด ควรพบแพทย์ทันที

3. ใช้กระดาษทิชชู ผ้าเช็ดหน้า ปิดปาก ปิดจมูก เวลาไอจาม และต้องล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจล ทำความสะอาดมือ

4. ไม่ควรคลุกคลี ใกล้ชิด หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น ควรพักผ่อน และดื่มน้ำมากๆ

5. ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด หอบหืด เบาหวาน ภูมิต้านทานต่ำ หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี หรือเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี โรคอ้วน หากเป็นหวัด ต้องพบแพทย์ทันที

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สายด่วนไข้หวัดใหญ่ 2009 กระทรวงสาธารณสุข โทร. 1422

การป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009

การป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 เมื่อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดเข้ามาในเอเชีย ( ฮ่องกง ) ชักจะใกล้บ้านเราเข้าไปทุกที วันนี้จึงขอเสนอวิธีการป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด นั่นคือการล้างมือ วิธีง่ายๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง และหลายๆ คนมองข้าม ฝึกให้เป็นกิจวัตรประจำวันเพื่อสุขภาพที่ดีของเรา

การป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 การป้องกันทั่วไปควรหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชนหรือสถานที่แออัด รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ล้างมือบ่อยๆ กรมควบคุมโรคได้เปิดศูนย์ Call Center การป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ให้ประชาชนสอบถามสถานการณ์ของโรคได้ที่หมายเลข 0-2590-3333

การป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 การแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009

การป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มีการแพร่ติดต่อเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ในคน โดยทั่วไปเชื้อที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย แพร่ไปยังผู้อื่นโดยการไอ หรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด การป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 หรือติดจากมือ และสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ และเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก และตา เช่น การแคะจมูก การขยี้ตา ไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไอ มีน้ำมูก หากป่วย และมีอาการดังกล่าว ควรสวมหน้ากากอนามัย การป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 และหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน หรือสถานที่แออัด ประชาชนทั่วไปควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผัก ผลไม้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ งดดื่มเหล้า ล้างมือบ่อยๆ

ไข้หวัดใหญ่ 2009 หวัดสายพันธุ์ใหม่ ที่ระบาดทั่วโลก



การป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก อ.ส.ม.ท.

ข่าวคราวการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือ H1N1 ปรากฎให้เห็นมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552 แล้ว แต่ยิ่งนับวันก็ยิ่งมีการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ทำให้องค์การอนามัยโลกกังวลว่าไข้หวัดใหญ่ 2009 อาจจะสร้างความรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก

ทั้งนี้ประเทศแถบเอเชียใกล้ๆ บ้านเรา ก็มีรายงานผู้ติดเชื้อแล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย รวมถึงประเทศไทย ดังนั้นโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป วันนี้กระปุกจึงนำเรื่องราวของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 มาบอกต่อเพื่อเป็นความรู้ค่ะ



สถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุด

องค์การอนามัยโลกได้ประกาศเตือนภัยการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ระดับ 5 หมายถึง มีการติดต่อของเชื้อไวรัสจากคนสู่คน และแพร่ระบาดไปอย่างน้อยสองประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก รายงานว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลก ล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 12,954 รายแล้ว ใน 46 ประเทศ และมีจำนวนผู้เสียชีวิต 92 ราย ขณะที่ในประเทศเม็กซิโก มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 85 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 4,721 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2552)



รู้จักโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

โรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีชื่อเรียกในประเทศต่างๆ หลายชื่อ คือ ไข้หวัดเม็กซิโก, ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอชวัน เอ็นวัน 2009, ไข้หวัดใหญ่จากสุกร (Swine Influenza) เป็นต้น เป็นไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ ตามปกติมีการระบาดในหมูเท่านั้น สามารถพบได้ทั้งในหมูเลี้ยง และหมูป่า ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ ทั้ง H1N1, H1N2 และ H3N2 แต่บางครั้งหมูอาจมีเชื้อไข้หวัดอยู่ในตัวมากกว่า 1 ชนิด ซึ่งอาจทำให้เกิดการผสมกันของยีนได้ ทำให้เกิดเป็นไวรัสชนิดใหม่ที่สามารถข้ามสายพันธุ์มาติดต่อยังมนุษย์ได้ เริ่มต้นจากการสัมผัสกับหมูที่เป็นโรค

สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เริ่มแพร่ระบาดในประเทศเม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา ก่อนจะแพร่ระบาดไปหลายๆ ประเทศทั่วโลกนั้น เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) ซึ่งเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของคน และไม่เคยพบมาก่อน เนื่องจากเป็นการผสมกันของสารพันธุกรรมไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์, ไข้หวัดนกที่พบในทวีปอเมริกาเหนือ และไข้หวัดหมูที่พบในทวีปเอเชีย และยุโรป ทำให้องค์การอนามัยโลกต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 เนื่องจากหวั่นวิตกว่า เชื้อ H1N1 อาจจะกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ที่อันตรายยิ่งขึ้น



วิวัฒนาการไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

ก่อนที่ไข้หวัดหมูดั้งเดิมจะกลายพันธุ์เป็นไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 นั้น ไข้หวัดหมูสายพันธุ์ดั้งเดิม พบมาตั้งแต่ ค. ศ.1918-1919 ในช่วงที่ไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish Flu) ระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลก จนมีผู้เสียชีวิตประมาณ 50 ล้านคน ส่วนใหญ่อายุ 20-40 ปี และตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จากนั้นโรคไข้หวัดหมูได้แพร่ระบาดในช่วงต่างๆ ก่อให้เกิดโรคในคนอยู่มากกว่า 50 ราย โดยผู้ป่วย 61% มีประวัติสัมผัสหมู และมีอายุเฉลี่ย 24 ปี หลังจากนั้นใน ค.ศ.1974 ไข้หวัดหมูได้แพร่ระบาดในค่ายทหาร (Fort Dix) ที่รัฐนิวเจอร์ซี่ มีผู้ป่วย 13 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยที่อีก 230 ราย ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ หรือมีอาการแต่น้อยมาก ทั้งหมดนี้ไม่มีประวัติสัมผัสหมู ซึ่งแสดงว่าน่าจะมีการพัฒนาจนมีการติดต่อจากคนสู่คน

ต่อมาใน ค.ศ.1988 หญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งเสียชีวิตในรัฐวิสคอนซิน และมีประวัติสัมผัสหมู จึงเกิดการสงสัยว่าไข้หวัดหมูอาจไม่ใช่พันธุ์หมูล้วน (classic H1N1) จนกระทั่งปี ค.ศ.1998 จึงพิสูจน์พบว่า หมูที่เลี้ยงในประเทศสหรัฐอเมริกา มีไวรัสไข้หวัดหมูกลายพันธุ์ โดยมีพันธุกรรมผสมระหว่างหมู คน และนก เกิดสายพันธุ์ผสม (Triple assortant virus) H3N2, H1N2, และ H1N1 (วารสารโรคติดเชื้อ JID 2008) และสายพันธุ์ผสมนี้ยังพบได้ในเอเชีย และแคนาดา



จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน 2008 ได้พบไข้หวัดหมูผสมสายพันธุ์ใหม่ (H1N1) ที่ประเทศสเปน จากหญิงอายุ 50 ปีที่ทำงานในฟาร์มหมู โดยมีอาการไข้ ไอ เหนื่อย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คันคอ คันตา และหนาวสั่น แต่อาการเหล่านี้หายไปได้เอง โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาใดๆ จึงไม่มีการคาดการณ์ว่า ไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่จะเป็นอันตรายมากนัก

จนกระทั่งล่าสุด เกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดหมู หรือที่มีการบัญญัติชื่อใหม่ว่า ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ลามไปทั่วโลก และมีการยืนยันอย่างแน่ชัดว่า โรคนี้สามารถแพร่กันระหว่างคนสู่คน เนื่องจากเชื้อโรคได้วิวัฒนาการอย่างสมบูรณ์แล้ว


การติดต่อโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

เชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีการติดต่อเหมือนกับโรคไข้หวัดใหญ่ในคนทั่วไป และเชื้อจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยระยะฟักเชื้อของไข้หวัดใหญ่ 2009 นั้นอยู่ที่ประมาณ 3-7 วัน หากผู้ป่วยได้รับเชื้อมากระยะฟักตัวก็จะเร็ว ซึ่งทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยด้วยว่าสุขภาพร่างกายแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน

ทั้งนี้เชื้อโรคจะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย และสามารถแพร่กระจายไปยังผู้อื่นด้วยการไอ หรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด รวมทั้งติดต่อกันทางลมหายใจ หากอยู่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ และสามารถติดต่อได้จากมือ หรือสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ ทั้งนี้เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา เช่น การแคะจมูก การขยี้ตา ซึ่งสามารถแพ้เชื้อได้ ตั้งแต่ผู้ติดเชื้อยังไม่ปรากฎอาการ หรือหลังจากปรากฎอาการไข้แล้ว

ขณะที่นักวิชาการขององค์การอนามัยโลก ระบุไว้ว่า โรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีอัตราการแพร่ระบาดมากกว่าโรคซาร์ส และไข้หวัดนก แต่อัตราการเสียชีวิตมีน้อยกว่า คืออยู่ที่ร้อยละ 5-7 ขณะที่โรคไข้หวัดนกมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 60



อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

เมื่อเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 เข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัวประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนจะปรากฎอาการที่คล้ายกับผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ธรรมดา แต่มีอาการรุนแรงกว่าและรวดเร็วกว่า นั่นคือ มีไข้สูงราว 38 องศาเซลเซียส ปวดเมื่อยตามร่างกาย ตามข้อ ไอ มีน้ำมูก มีเสมหะ ปอดบวม เบื่่ออาหาร บางรายอาจท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน จากนั้นเชื้อจะแพร่เข้าสู่กระแสโลหิต จึงทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะมีการทรงตัวผิดปกติ เดินเอนไปเอนมาเหมือนคนเมาสุรา นอกจากนี้อาจสูญเสียการได้ยินจนถึงขั้นหูหนวกได้ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

ระยะติดต่อ

ระยะติดต่อหมายถึงระยะเวลาที่เชื้อสามารถติดต่อไปยังผู้อื่น ระยะเวลาที่ติดต่อคนอื่นคือ 1 วันก่อนเกิดอาการ ห้าวันหลังจากมีอาการ ในเด็กอาจจะแพร่เชื้อ 6 วันก่อนมีอาการ และแพร่เชื้อได้ นาน 10 วัน

โรคแทรกซ้อนที่สำคัญ

ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคปอดอักเสบตามมา รวมถึงหัวใจวาย และอาจจะทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งโรคแทรกซ้อนนี้สามารถคร่าชีวิตได้ หากผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก, ผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน และติดยาเสพติด เป็นต้น



ผู้ป่วยควรจะพบแพทย์เมื่อไร

ผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หรือมีประวัติสัมผัสกับผู้ที่ต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 แล้วพบว่าตัวเองมีไข้สูง 38.5 องศา มีไข้นานเกิน 7 วัน เจ็บหน้าอก ปวดท้อง อาเจียน มีจุดเลือดตามตัว ตาเหลือง เจ็บคอมาก มีเสมหะสีเขียวๆ เหลืองๆ ผิวสีม่วง หรือได้พยายามรักษาตัวเองแล้ว แต่ยังไม่หาย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ด้วยวิธี PCR ซึ่งการตรวจด้วยวิธีนี้สามารถหาเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ได้ภายใน 24 ชั่วโมง และควรเข้ารับการตรวจรักษาภายในห้องตรวจพิเศษ Negative Pressure เพื่อป้องกันการกระจายของเชื้อไวรัสต่อไปยังผู้อื่น



การรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

องค์การอนามัยโลก ระบุว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ยังไม่สามารถป้องกัน และรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 นี้ได้ แต่จากผลการทดสอบในห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ คือ

1. "โอเซลทามิเวียร์" (ชื่อทางการค้าว่า ทามิฟลู) เป็นยาที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กอ่อนถึงผู้ใหญ่ มีตัวยาทั้งที่เป็นเม็ดและเป็นน้ำ แต่มีผลข้างเคียง ที่พบบ่อยที่สุด คือ อาการคลื่นไส้ อาเจียน นอกจากนั้นในเด็กอาจมีอาการปวดท้อง เลือดกำเดาออก ปัญหาเรื่องหู และโรคตาแดง

2."ซานามิเวียร์" (ชื่อทางการค้าว่า รีเลนซา) เป็นยาที่ใช้ได้เฉพาะในผู้ป่วยอายุมากกว่า 5 ปี และไม่แนะนำให้ใช้ในคนที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง เช่น โรคหืด หรือผู้ป่วยในสถานพยาบาล และผู้ที่มีอาการแพ้สารแลคโตส ตัวยามีลักษณะเป็นเบบชนิดพ่นเท่านั้น ผลข้างเคียงของยานี้คือ เพิ่มความเสี่ยงของอาการหายใจลำบาก ในเด็กวัยเล็กและวัยรุ่น อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากอาการชัก อาการสับสน ความประพฤติผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากไข้หวัดใหญ่ในระยะแรก

ทั้งนี้ ยาทั้งสองชนิด สามารถป้องกันเชื้อไวรัสไม่ให้แตกตัว แต่ต้องรับยาภายใน 48 ชั่วโมง เพราะมีโอกาสที่เชื้อไวรัสจะกลายพันธุ์ได้อีกในอนาคต อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกกำลังเร่งผลิตวัคซีนเพื่อป้องกัน และรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 นี้อยู่ ซึ่งยังคงต้องใช้เวลา อย่างน้อย 5-6 เดือน เพื่อให้ได้วัคซีนที่ใช้รักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ



การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

โรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นไข้หวัดใหญ่ที่ติดต่อจากคนสู่คน ซึ่งวิธีการป้องกันการติดต่อของโรคได้ดีที่สุด คือ การรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน หรือสถานที่แออัด และล้างมือบ่อยๆ รวมทั้งผู้ที่ป่วยเป็นหวัด ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันโอกาสการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่จะเข้าไปผสมกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ประจำฤดูกาลในตัวผู้ป่วย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดเชื้อใหม่ที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ดื้อยาเพิ่มขึ้น และแพร่ระบาดจากคนสู่คนมากขึ้นต่อไป

นอกจากนี้หากใครที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และมีไข้สูง ให้รีบไปพบแพทย์โดยทันที เพื่อจะได้เฝ้าระวังและรักษาได้ทัน



วัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่

วัคซีนสำหรับรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ อาจไม่สามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้ แต่ก็ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ที่จะเกิดขึ้นตามฤดูกาลได้ ซึ่งอาจจะช่วยป้องกันไม่ให้ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ผสมกับไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ จนกลายพันธุ์เป็นพันธุ์ที่รุนแรงมากกว่าเดิม

ทั้งนี้วัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นวัคซีนชนิดฉีด และเป็นวัคซีนเชื้อตาย จำนวน 3 สายพันธุ์ คือ ชนิดเอ 2 สายพันธุ์ และชนิดบี 1 สายพันธุ์ ทุกปีจะมีการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ขึ้นมาใหม่ โดยองค์กรอนามัยโลกจะคาดเดาว่า ในปีนั้นจะมีเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใดระบาด และแยกผลิตเป็นสองสูตร สำหรับประเทศในซีกโลกเหนือ และประเทศในซีกโลกใต้

วัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่นี้ สามารถฉีดได้ในเด็ก ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ สำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 9 ปี หากไม่เคยฉีดวัคซีนมาก่อนในปีแรก ให้ฉีด 2 เข็ม โดยห่างกัน 1 เดือน จากนั้นให้ฉีด 1 เข็ม ในแต่ละปี หากเป็นเด็กโตหรือผู้ใหญ่ ให้ฉีดวัคซีนปีละครั้ง

โดยทั่วไปการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถป้องกันโรคได้ร้อยละ 60-90 หรือหากเป็นขึ้นมา อาการของโรคก็จะไม่รุนแรงนัก ทั้งนี้หลังจากฉีดวัคซีนแล้ว อาจมีอาการปวดบวมแดงเฉพาะที่ หรืออาจมีไข้หรือปวดเมื่อยตามตัว นาน 1-2 วัน

แม้ว่าโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะมีอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อไม่มากนัก และผู้ติดเชื้อในประเทศไทยจะได้รับการรักษาจนหายแล้วก็ตาม แต่อย่างไรเราก็ควรต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อสามารถเตรียมการป้องกัน และเฝ้าระวังได้อย่างถูกต้อง ซึ่งวิธีการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ดีที่สุด ก็คือการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และล้างมือบ่อยๆ เพื่อกำจัดเชื้อโรคออกไปนั่นเอง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

http://www.thailandunovus.com/aticle-h1n1.html
http://www..kapook.com/





เครื่องฟอกอากาศ

สนใจแลกลิ้ง ที่นี่เลย http://www.thailandunovus.com/link-exchange-airpurifier.html

ป้องกันไข้หวัดใหญ่2009 ด้วย novus-air




รถตู้ให้เช่า บริการรถตู้ให้เช่า http://www.van-amata.com/



เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ FreshAir To Go

เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์

รถตู้ให้เช่า บริการรถตู้ให้เช่า เช่ารถตู้

รถตู้เช่า เช่ารถตู้ รถตู้ให้เช่า





รถตู้เช่า เช่ารถตู้ รถตู้ให้เช่า


ธุรกิจเครือข่ายออนไลน์ ecomerce


วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553

เครื่องฟอกอากาศ สิ่งจำเป็นสำหรับคนรักสุขภาพ

เครื่องฟอกอากาศ เครื่องกรองอากาศ เครื่องกรองน้ำ ข้อมูลเครื่องฟอกอากาศ ชนิดของเครื่องฟอกอากาศ ราคาเครื่องกรองอากาศ

สุดยอด ผ้าอนามัย อัจฉริยะ ราคา novus-air ขาย novus-air mini i water japin Laundry Pure F3



เครื่องฟอกอากาศ สิ่งจำเป็นสำหรับคนรักสุขภาพ เครื่องฟอกอากาศ ในสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่เร่งรีบและแออัด ประกอบกับสภาพอากาศที่มีมลภาวะสูงขึ้นในปัจจุบัน อันเนื่องมาจากผลข้างเคียงของการเติบโตของสังคมและจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น เช่น ควันเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม ไอเสียจากยานยนต์ ฝุ่นละอองหรือมลพิษทางอากาศอื่นๆ ทำให้ผู้คนต้องการใช้ชีวิตประจำวันทั้งในระหว่างทำงานและที่บ้านที่มีเครื่องปรับอากาศเพื่อให้ความเย็น ซึ่งทำให้โอกาสที่จะได้รับอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติที่แท้จริงมีน้อยลงทุกขณะ ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะมีโอกาสในการไปพักผ่อนตากอากาศเป็นครั้งคราวก็ตาม

การอยู่ในห้องปรับอากาศซึ่งมีการปรับอุณหภูมิที่พอเหมาะจะสามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับมลภาวะทางอากาศได้ระดับหนึ่ง แต่อากาศภายในห้องปรับอากาศซึ่งเป็นอากาศที่หมุนเวียนผ่านเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา และถ่ายเทออกสู่บรรยากาศภายนอกเพียงเล็กน้อย รวมทั้งความชื้นจากในอากาศและในตัวเครื่องปรับอากาศเอง อีกทั้งฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายอยู่ทั่วไป อาจกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อและไม่เป็นผลดีต่อผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นเครื่องฟอกอากาศในบ้านจึงเป็นทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคส่วนหนึ่งที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ


เครื่องฟอกอากาศในบ้าน 4 ประเภทที่แตกต่าง
จากพัฒนาการของการผลิตเครื่องฟอกอากาศในบ้านที่พัฒนามาโดยลำดับและมีการปรับปรุงการผลิตให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคนั้น ทำให้ในปัจจุบันมีการผลิตเครื่องฟอกอากาศออกมา 4 ประเภท ดังต่อไปนี้

เครื่องฟอกอากาศแบบใช้แผ่นกรองคาร์บอน ( Carbon Air Purifiers )
เครื่องฟอกอากาศชนิดนี้ใช้คาร์บอนเป็นสารที่ทำปฏิกริยาดูดกลิ่นสกปรก และกลิ่นอับชื้นในอากาศ โดยใช้ไส้กรองที่มีส่วนผสมของคาร์บอนเป็นตัวดักจับกลิ่นจากอากาศที่ถูกเป่า หรือดูดหมุนเวียนผ่านไส้กรองซึ่งต้องเปลี่ยนไส้กรองตามอายุการใช้งาน

เครื่องฟอกอากาศแบบใช้ประจุไฟฟ้า ( Ionic Air Purifiers )
เครื่องฟอกอากาศชนิดนี้สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ซึ่งนอกจากสามารถดักจับฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศแล้วยังสามารถกรองฝุ่น เกสรดอกไม้ ควันบุหรี่ ขนสัตว์เลี้ยง รวมทั้งกลิ่นของสารระเหยและกลิ่นของน้ำยาหรือสารเคมีต่างๆ ที่ใช้ในครัวเรือน จากคุณสมบัติดังที่กล่าวมาจึงทำให้เครื่องฟอกอากาศชนิดนี้เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

เครื่องฟอกอากาศแบบประสิทธิภาพในการกรองสูง ( High Efficiency Particle Arresting : HEPA )
เป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและดีที่สุด สามารถกรองอากาศได้บริสุทธิ์ถึง 99.97% เพราะใช้ไส้กรองแบบเดียวกันกับที่ใช้ในห้อง Clean Room ในอุตสาหกรรมอิเลคทรอนิคส์บางประเภท หรือใช้สำหรับห้องผ่าตัดในโรงพยาบาลรวมทั้งในอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ ไส้กรองเป็นแบบชนิดที่ทำจากใยแก้วละเอียดซึ่งมีอายุการใช้งานระหว่าง 2 ถึง 4 ปี และมีประสิทธิภาพในการกรองสูงแต่ไม่สามารถดูดซับกลิ่นและควันได้

เครื่องฟอกอากาศแบบผสม
เป็นเครื่องฟอกอากาศแบบที่รวมข้อดีของเครื่องฟอกอากาศต่างชนิดไว้ด้วยกัน ทำให้เครื่องฟอกอากาศแบบนี้สามารถกำจัดกลิ่นควันและฝุ่นละอองได้ในเครื่องเดียวกัน ซึ่งอาจเป็นแบบผสมระหว่างไส้กรอง HEPA/Ionic และแบบผสมระหว่างไส้กรอง HEPA ไส้กรองคาร์บอน รวมทั้งแบบผสมชนิดอื่นๆ ที่มีระบบ Ionic ร่วมอยู่ด้วยเป็นส่วนใหญ

นอกจากนี้ยังมีเครื่องกำเนิดโอโซน ( Ozone Generator ) ใช้สำหรับให้กำเนิดโอโซนเพียงอย่างเดียวที่สามารถขจัดกลิ่นและควันที่ปะปนอยู่ในอากาศ เครื่องกำเนิดโอโซนที่สามารถผลิตโอโซนในปริมาณสูงจึงเหมาะสำหรับการใช้งานในภัตตาคาร สถานบันเทิง และสถานที่ที่อากาศหมุนเวียนภายในมีสิ่งปนเปื้อนสูงและกลิ่นสกปรก รวมถึงกลิ่นอับชื้นต่างๆ เช่น กลิ่นจากอาหาร ควันบุหรี่ ห้องน้ำ เป็นต้น

สภาวะอากาศที่มีมลพิษสูงขึ้นเรื่อยมาโดยเฉพาะในประเทศอุตสาหกรรม ส่งผลให้ความต้องการเครื่องฟอกอากาศสูงขึ้น 1 จากการสำรวจในสหรัฐอเมริกาพบว่าในปี 2545 ยอดการจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศทุกๆ แบบรวมกันมีมากกว่า 3 ล้านเครื่อง สูงกว่าปี 2544 ถึง 70% และคาดว่าความต้องการเครื่องฟอกอากาศจะมีสูงขึ้นเรื่อยมา ความกังวลในเรื่องของโรคภูมิแพ้ สิ่งปนเปื้อนในอากาศ และโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ( Severe Acute Respiratory Syndrome : SARS ) ยังคงเป็นปัจจัยเสริมที่ส่งผลให้ยอดขายเครื่องฟอกอากาศยังคงเพิ่มขึ้นเสมอมา

เครื่องฟอกอากาศ สำหรับในประเทศไทยนั้นเครื่องฟอกอากาศในบ้านเป็นสินค้าที่เริ่มจะได้รับความนิยมสูงขึ้นโดยในปี 2546 ที่ผ่านมามีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณกว่า 2500 ล้านบาท และในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท เครื่องฟอกอากาศในบ้านที่วางจำหน่ายในปัจจุบันมีความหลากหลายในด้านราคา โดยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาด กำลัง ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ และเทคโนโลยีที่ใช้

เครื่องฟอกอากาศป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009

เทคโนโลยี RCI หรือ Active Pure คิดค้นเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี

ผลิตภัณฑ์ของเทคโลยีนี้ อาทิเช่น Novus Air เครื่องฟอกอากาศเทคโลยีล่าสุด

และขายดีทีสุดในอเมริกา

หลังจาก UNOVUS(ECOQUEST) ได้รับลิขสิทธิ์จากองค์การ NASA ก็คิดเพื่อตอบแทนสังคม นอกจากจะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้ร่วมทำธุรกิจ ซึ่ง UNOVUS (ECOQUEST) ถือเป็นเจ้าของสิทธิบัตรขององค์การ NASA เพียงบริษัทเดียวที่ กระจายสินค้าในรูปแบบเครือข่าย โดยทำตลาดเฉพาะในประเทศอเมริกาเท่านั้น แต่ในปี 2008 บริษัทต้องการขยายโอกาสทางสินค้าและธุรกิจนี้ออกไปทั่วโลก จึงได้ให้บริษัท earnware ผู้นำด้านระบบ e-commerce สร้างระบบธุรกิจ e-commerce และปรับปรุงแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อกระจายธุรกิจไปทั่วโลก ในปัจจุบัน( มีนาคม 2009) ได้ขยายไปประเทศตะวันออกกลาง, จีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน และได้ขยายมายังประเทศไทย

สินค้ายอดนิยม

NOVUS AIR สุดยอดนวัตกรรมเครื่องฟอกอากาศ
NOVUS AIR ถือเป็นเครื่องฟอกอากาศระบบ RCI รุ่นล่าสุดที่ไม่มีไส้กรอง ตัวเล็ก น้ำหนักไม่ถึง 1 kg แต่สามารถฟอกอากาศให้สะอาดได้ในพื้นที่ 1,500 ตรฟุต มีงานวิจัยกว่า 12 งานวิจัยที่พิสุจน์ประสิทธิภาพ ถือเป็น เครื่องแรกที่ฆ่าเชื้อในอากาศได้ทุกชนิด แม้แต่เชื้อไข้หวัดนก ซึ่งจากมหาวิทยาลัย แคสซัส ประเทศอเมริกาพบว่า หลังจากติดตั้ง NOVUS AIR เชื้อไขหวัดนกสลายไป 99.99% ภายใน ชั่วโมง



ในประเทศอเมริกาเครื่องฟอกอากาศ Novus Air ถือเป็นเครื่องฟอกอากาศที่มียอดขายสูงสุดถึง 9,000,0000 เครื่อง เป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานราชการ และเอกชน จำนวนมาก

Novus Air ผู้ฟื้นฟูสภาพอากาศในPentagan(กระทรวงกลาโหมสหรัฐ)ในวิกฤตการณ์ 9/11
เมื่อปี 2001 ผู้ก่อการร้าย ทำลายอาคารเวิลด์เทรด และกระทรวงกลาโหมสหรัฐ(pentagon) ทำให้ปัญหามลพิษทางอากาศไปทั่วอาคาร ผู้คนในอาคารต้องเผชิญกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ทราบว่าทางองค์การ NASA มีระบบจัดการการมลพิษในอากาศจึงติดต่อไปขอเครื่องมือดังกล่าว UNOVUS ซึ่งเป็นผู้ผลิตนวัตกรรมการฟอกอากาศขององค์การ NASA แต่เพียงผู้เดียวจึงส่งเครื่องฟอกอากาศ NOVUS AIR ให้ กับ กระทรวงกลาโหมสหรัฐ(pentagon) ในไม่นานหลังจากใช้เครื่องฟอกอากาศ NOVUS Air อากาศใน Pentagon ก็ดีขึ้นและได้ส่งจดหมายขอบคุณมาให้กับทางบริษัท



กระทรวงกลาโหมสหรัฐ(pentagon) ถูกผู้ก่อการร้ายโจมตี



จดหมายขอบคุณจากรัฐบาลสหรัฐ

นอกจากอาคาร Pentagon ในโรงพยาบาล,คลีนิค, สถานเลี้ยงเด็ก, โรงงานอุตสาหกรรม หลายที่ก็ใช้เครื่องฟอกอากาศ NOVUS Air



สุดยอดผ้าอนามัย อัจริยะ F3 Feminine Care

บริษัทมีความมั่งคงมากว่า 24 ปี สำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่กรีนวิลเลจ, เทนเนสซี และ เมืองดาลัส ประเทศสหรัฐอเมริกา

ทำการตลาดแบบเครือข่ายหลายชั้นเฉพาะในอเมริกา และเมื่อเดือน พฤษจิกายน 2008 ที่ผ่านมา ได้เปิดช่องทาง

e-commerce แบบเต็มรูปแบบให้คนทั่วโลกได้มีส่วนร่วมในธุรกิจระดับโลก



สำนักงานที่แทนเนสซีประเทศสหรัฐอเมริกา



สำนักงานที่เมืองดาลัส



โรงงานของตัวเอง

UNOVUS มีพนักงานกว่า 750 คน



UNOVUS มีโรงงานผลิตสินค้าของตัวเอง มีห้องประชุม ที่จุคนได้มากกว่า 2,000 คน

เครื่องฟอกอากาศ

สนใจแลกลิ้ง ที่นี่เลย http://www.thailandunovus.com/link-exchange-airpurifier.html

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thailandunovus.com



รถตู้ให้เช่า บริการรถตู้ให้เช่า http://www.van-amata.com/

เครื่องฟอกอากาศ เครื่องกรองอากาศ เครื่องกรองน้ำ ข้อมูลเครื่องฟอกอากาศ ชนิดของเครื่องฟอกอากาศ ราคาเครื่องกรองอากาศ

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์

รถตู้ให้เช่า บริการรถตู้ให้เช่า เช่ารถตู้




รถตู้เช่า เช่ารถตู้ รถตู้ให้เช่า

รถตู้เช่า เช่ารถตู้ รถตู้ให้เช่า

ธุรกิจเครือข่ายออนไลน์ ecomerce








สุดยอด ผ้าอนามัย อัจฉริยะ ราคา novus-air ขาย novus-air mini i water japin Laundry Pure F3


เครื่องฟอกอากาศ